ตำรวจสัตหีบมีเรื่องให้ปวดหัวแต่เช้า ชาย 2 คนแสดงตัวเป็นเจ้าของรถจยย.คันเดียวกัน คนหนึ่งมีกุญแจรถและมีเอกสาร อีกคนมีพลาสติกกับช้อน ใช้งัดแงะรูเสียบกุญแจ พร้อมคำยืนยันเป็นเจ้าของรถตัวจริงล้านเปอร์เซ็นต์
เวลา 07.00 น. วันที่ 9 ส.ค. 66 ศูนย์วิทยุ สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้พบผู้ต้องสงสัยพยายามงัดรถจักรยานยนต์ บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มปตท.สาขาโรงเรียนสิงห์สมุทร ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง ได้วิทยุสั่งการให้สายตรวจรถจักรยานยนต์ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุ คือ นายชู เรืองสุขสุด อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ อาชีพก่อสร้างในมือถือพลาสติกใสทรงแหลม ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไอ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กธ-663 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถที่มีผู้พบว่า ผู้ก่อเหตุใช้อุปกรณ์พลาสติกทรงแหลมในมือ และช้อน พยายามงัดแงะบริเวณรูกุญแจรถ โดยยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เป็นรถของตนเองที่พี่เขยให้มาใช้ และไม่ได้ดื่มสุรามา
ต่อมา ได้มี นายปาน เครือขำ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายใบกระท่อม อยู่ริมถนนหน้าปั๊ม ได้นำกุญแจรถ พร้อมแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขี่มาจอดไว้ในปั๊ม ก่อนจะออกไปขายของ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างปวดหัวไปตามๆ กัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่า เป็นรถของตนเอง แต่ฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่มีกุญแจรถ ไม่มีเอกสารยืนยัน และมีลักษณะพูดจาหลงลืม พยานที่เห็นเหตุการณ์ เห็นว่า ผู้ก่อเหตุใช้อุปกรณ์พลาสติกทรงแหลม และช้อน พยายามไขกุญแจรถคันอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ใช่ลักษณะเหมือนผู้ที่มาโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ส่วน นายปาน มีกุญแจรถ และมีเอกสารยืนยันชัดเจน จึงถือเป็นผู้ได้ครอบครองรถคันนี้
ตำรวจสัตหีบมีเรื่องให้ปวดหัวแต่เช้า ชาย 2 คนแสดงตัวเป็นเจ้าของรถจยย.คันเดียวกัน คนหนึ่งมีกุญแจรถและมีเอกสาร อีกคนมีพลาสติกกับช้อน ใช้งัดแงะรูเสียบกุญแจ พร้อมคำยืนยันเป็นเจ้าของรถตัวจริงล้านเปอร์เซ็นต์
เวลา 07.00 น. วันที่ 9 ส.ค. 66 ศูนย์วิทยุ สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้พบผู้ต้องสงสัยพยายามงัดรถจักรยานยนต์ บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มปตท.สาขาโรงเรียนสิงห์สมุทร ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง ได้วิทยุสั่งการให้สายตรวจรถจักรยานยนต์ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุ คือ นายชู เรืองสุขสุด อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ อาชีพก่อสร้างในมือถือพลาสติกใสทรงแหลม ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไอ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กธ-663 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถที่มีผู้พบว่า ผู้ก่อเหตุใช้อุปกรณ์พลาสติกทรงแหลมในมือ และช้อน พยายามงัดแงะบริเวณรูกุญแจรถ โดยยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เป็นรถของตนเองที่พี่เขยให้มาใช้ และไม่ได้ดื่มสุรามา
ต่อมา ได้มี นายปาน เครือขำ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายใบกระท่อม อยู่ริมถนนหน้าปั๊ม ได้นำกุญแจรถ พร้อมแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขี่มาจอดไว้ในปั๊ม ก่อนจะออกไปขายของ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างปวดหัวไปตามๆ กัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่า เป็นรถของตนเอง แต่ฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่มีกุญแจรถ ไม่มีเอกสารยืนยัน และมีลักษณะพูดจาหลงลืม พยานที่เห็นเหตุการณ์ เห็นว่า ผู้ก่อเหตุใช้อุปกรณ์พลาสติกทรงแหลม และช้อน พยายามไขกุญแจรถคันอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ใช่ลักษณะเหมือนผู้ที่มาโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ส่วน นายปาน มีกุญแจรถ และมีเอกสารยืนยันชัดเจน จึงถือเป็นผู้ได้ครอบครองรถคันนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ นายปาน ผู้เป็นเจ้าของรถตัวจริง ไม่ติดใจเอาความ เพราะเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่มีเจตนา แต่น่าจะมีอาการหลงลืม จึงไม่ประสงค์ดำเนินคดี เบื้องต้นทางตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุ ไปอยู่ในการควบคุม พร้อมติดตามหาญาติให้มารับตัวกลับบ้านเพราะหากปล่อยไว้ อาจจะสร้างปัญหาขึ้นอีก
ชลบุรี – แด่พี่น้องร่วมอุดมการณ์
วันที่ 8 กันยายน 2565 กรม ทช. โดยสำนักงาน ทช.ที่ 2 (ชลบุรี) ตรวจสอบพบขยะจำนวนมากถูกคลื่นลมพัดขึ้นเกยตลอดแนวชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทางประมาณ 700 เมตร จึงร่วมกับเทศบาลตำบลนาจอมเทียน จัดเก็บขยะออกจากพื้นที่ เมื่อตรวจสอบพบลูกเต่ากระและเต่าตนุ อายุประมาณ 1 เดือน ติดมากับขยะจำนวนมาก จึงเร่งค้นหาโดยรอบพื้นที่เพื่อช่วยชีวิตเต่าที่อาจมีหลงเหลืออีก ผลการตรวจสอบเบื้องต้นสามารถช่วยชีวิตเต่าได้ประมาณ 20 ตัว และยังเร่งค้นหาต่อไป คาดว่ายังมีเต่าจำนวนมากที่ยังติดค้างอยู่ในกองขยะดังกล่าว ทั้งนี้ได้ประสานศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก เพื่อตรวจสอบพื้นที่ ค้นหา และนำลูกเต่าไปอนุบาลต่อไป
Credit : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
{Fullwidth}
